ตอนที่ 9
ตัวเลือกไหนทงเฮก็ประสาทจะกินทั้งนั้น!
ตามจริงคิบอมรู้ตัวดีว่าตนยังไม่สามารถสมสู่กับร่างบางได้จนกว่าพิธีกรรมอันเป็นความลับจะเสร็จสิ้น
แต่ที่เอ่ยไปแบบนั้นก็เพราะอยากเห็นใบหน้าหวานแสดงอาการตกอกตกใจแต่ชวนมองของเจ้าร่างระหงคนนี้ต่างหาก
หลายคืนเดินทางไม่ได้แตะต้องดอมดมเจ้าบุปผาป่าดอกนี้เลย
ทั้งที่กลิ่นและสีกลีบของเจ้าดอกไม้ดอกนี้ทั้งหอมหวานและชวนมอง
แต่คิบอมก็ไม่สามารถแตะต้องได้
“ว่าอย่างไรเล่า...เจ้าแก้มย้อย...”
ร่างแกร่งเร่งจะเอาคำตอบจากร่างน้อยในอ้อมอกพร้อมกดปลายจมูกโด่งของตนลงหาเศษหาเลยกับพวงแก้มอิ่ม
กะว่าถ้ามิได้คำตอบจากกลีบปากสีเรื่อของทงเฮล่ะก็...คิบอมจะไม่หยุดการกระทำ
“ฝ่าบาททรงเอาเปรียบ...”
ท่าทีของทงเฮไม่พอใจก็จริงอยู่
แต่ในสายพระเนตรของผู้เป็นใหญ่อย่างองค์ชายรัชทายาทแล้ว กิริยาของเจ้าร่างระหงทั้งชวนมองและชวนให้หลงใหลจนมิอาจถอนตัว
“...ว่าอย่างไร...จะให้ข้าลิ้มชิมกลีบเนื้อหวานของเจ้า
หรือจะให้ข้าดอมดมเจ้าไปทั้งตัว...”
คิบอมไม่พูดเปล่าเพราะตอนนี้มือกร้านเริ่มลูบไล้ไปทั่วสะโพกแน่นมือ
ยิ่งทงเฮพยายามจะหยุดยั้งการกระทำของร่างหนามากเท่าไหร่
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยิ่งสัมผัสให้หนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น
“...ฝ่าบาทใจร้าย...ฮึก...ใจร้าย...แกล้งหม่อมฉัน...”
น้ำตาเม็ดใหญ่เกาะลูกแก้วกลมโตเอาไว้ก่อนจะค่อยๆล่วงหล่นราวใบไม้แห้งปลิดปลิวออกจากกิ่ง
เจ้าร่างน้อยขบกัดริมฝีปากของตนแน่นด้วยความขัดใจก่อนที่นิ้วเรียวของร่างสูงจะบรรจงเช็ดหยดน้ำเหล่านั้นออกจากพวงแก้มสีเรื่อด้วยความอ่อนโยน
“ตั้งใจจะมิตอบข้าจริงๆหรือทงเฮ...”
“..........”
“เจ้าช่างเป็นคนประเภทเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายซะจริง...”
ปลายนิ้วที่ว่าค่อยๆไล้ผ่านกลีบปากสีอิ่มของคนเสียเปรียบ
เสียงสาลิกาลิ้นทองขับร้องบรรเลงบทเพลงธรรมชาติสอดประสานกับเสียงน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่คนทั้งคู่อยู่มากนัก
ห้วงวังวนของป่าเขาขับกล่อมให้ร่างแกร่งค่อยๆโน้มใบหน้าลงเพื่อเชยชมความหอมหวานของเรือนกายสวยที่อยู่ในอ้อมอก
ทันทีที่ริมฝีปากของร่างสูงแตะรับกับริมฝีปากของร่างบาง
ความอุ่นร้อนของอารมณ์บางอย่างก็แล่นพล่านไปตามเนื้อกายของร่างระหง ความรู้สึกดังกล่าววิ่งตรงไปยังหัวใจและถูกสูบฉีดออกไปเลี้ยงร่างกายตามกระแสเลือด
ความรู้สึกนี้จึงทำให้ทงเฮรู้สึกเสียววูบตั้งแต่กลางกระหม่อมลงไปถึงปลายเท้าของตน
สรุปว่า...ตัวข้า...เป็นเจ้าของ...หรือองค์ชาย...เป็นเจ้าของกันแน่?...ใจเอ๋ย...
เหตุใดเจ้าช่างอ่อนแอ...และยินยอมง่ายดายขนาดนี้?...
ทงเฮเฝ้าถามตนเองราวตอนนี้ร่างบางกำลังอยู่ในภวังค์แห่งตน
ทั้งที่กำลังคิด...แต่ปลายลิ้นเรียวของร่างน้อยก็คอยตอบสนองร่างสูงอยู่ไม่ขาด
ไม่ว่าลิ้นสากของคิบอมจะเกี่ยวตวัดไปค้นหาความหวาน ณ แห่งหนใด เรียวลิ้นเล็กของทงเฮก็ยินยอมพร้อมใจที่จะตามไปพัวพันอย่างนึกสนุก
พอโดนดักทางจนทั่วคิบอมจึงตวัดเอาส่วนอ่อนนุ่มของเจ้าร่างน้อยออกมาเกี่ยวรัดเล่น
ร่างระหงคล้องมือทั้งสองข้างรอบคอของร่างสูงเพื่อความถนัด
ก่อนจะขยับตัวยกสูงอย่างลืมสถานที่ที่ตนกำลังนั่งอยู่
โชคยังดี...ที่ร่างแกร่งไหวตัวคว้าทงเฮไว้ได้ทัน
ก่อนที่ทงเฮจะตกลงจากหลังม้า แต่โชคไม่ดี...ตรงที่จุมพิตแสนหวานต้องถึงกาลสิ้นสุด
ร่างระหงก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย
มือบางทั้งสองข้างขย้ำเสื้อลายมังกรของร่างแกร่งเอาไว้ก่อนที่อาชาตัวเก่งจะเริ่มออกตัวด้วยความเร็วอีกครั้ง
“อย่ากลัวเลยนะ...ทงเฮ...”
“..........”
“ตราบใดที่เจ้าไม่คิดหนีหายไปจากชีวิตของพี่...พี่จะไม่บีบบังคับให้เจ้าถวายงานให้พี่อีกแล้ว...”
ร่างแกร่งกระซิบเบาๆบริเวณใบหูกลมกลึง ก่อนจะกอดรัดร่างบางเอาไว้แนบอก
ความหอมหวานของอะไรบางอย่างทำให้คิบอมรู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก
เพียงแต่...คิบอมไม่รู้ว่า...ความหอมหวานที่ตนกำลังพึงใจอยู่นั้น...มันเรียกว่าอะไรกันแน่?
รัก...หรือแค่สิเน่หา...
หลังอาชาพันธุ์ดีควบเท้ามาถึงหมู่บ้านกลางหุบเขา
คิบอมก็พาทงเฮตรงไปยังเรือนไม้หลังใหญ่ที่อยู่กลางหมู่บ้าน เรือนไม้หลังนี้เงียบสงบและรู้สึกได้ถึงพลังไอเย็นจากกระแสน้ำนิ่งที่รายล้อมรอบเรือนไม้
ก่อนที่คิบอมจะค่อยๆเปิดประตูบ้านเข้าไปภายใน
“...เรามาที่นี้ทำไมรึเพคะ...”
ร่างระหงเอ่ยถามแผ่วเบา หากแต่ได้รับเพียงแต่รอยยิ้มบางจากคิบอมเท่านั้น
หญิงชรานางหนึ่งสาวเท้าเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยท่าทีเมตตา
พอทงเฮเห็นคิบอมถึงกับค้อมตัวลงทำความเคารพ
ร่างระหงก็พอจะเดาออกทันทีว่าหญิงชราผู้นี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับองค์ชายรัชทายาท
“ท่านป้า...” ร่างแกร่งเอ่ยเบาๆ
ก่อนจะนั่งลงบนเบาะสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทงเฮที่ยังไม่ประสาได้แต่ทำความเคารพตาม แล้วจึงนั่งเบาะลักษณะนั้นด้วย
แต่ถอยล่นอยู่หลังผู้เป็นสามี
“...พ่อเจ้าส่งม้าเร็วมาบอกให้ข้าเตรียมการแล้ว...พระชายาคนนี้เป็นบุรุษแน่หรือ...”
หญิงชราเบนสายตามาทางร่างระหงพร้อมเอ่ยปากถาม
“เพคะ”
“มิอยากจะเชื่อสายตาเลยจริงๆนะคิบอม...นางทั้งสวย...แถมบอบบาง
สงสัยตอนคลอดคงจะเจ็บน่าดู...” อีกฝ่ายหัวเราะ ก่อนจะหยิบห่อสมุนไพรบางอย่างยื่นให้ผู้เป็นหลานชาย
“ประตูหลังบ้านของข้ามีน้ำตกจำลองขนาดเล็กอยู่
ให้เจ้าเอามันไปผสมให้เมียของเจ้าอาบเพื่อลบล้างรอยราคีที่เจ้าทำบนตัวของนางทั้งหมด
ก่อนทำพิธีร่างกายของนางต้องสะอาดที่สุด...” คิบอมรับห่อผ้านั้นมาจากมือของอีกฝ่าย
ก่อนจะพาทงเฮที่ยังงุดงงอยู่ไปทางหลังบ้าน
น้ำตกจำลองขนาดเล็กถูกร่างหนาผสมตัวยาบางอย่างลงไป และสั่งให้ทงเฮลงไปชำระกาย
แล้วจึงเดินกลับเข้ามาในบ้านดังเดิม
เมื่อได้อยู่กันสองคนป้ากับหลานจึงพูดคุยกันโดยไม่มีปิดบัง
“สะโพกของนางเล็กเกินไป...ข้ากลัวนักว่าทารกจะมิสามารถอยู่ได้”
หญิงชราเปิดประเด็นทันที ซึ่งคำพูดนั้นทำให้คิบอมเองก็รู้สึกลำบากใจอยู่เหมือนกัน
แต่...จะไปหาพระชายาใหม่เห็นทีคงมิได้
ในเมื่อหัวใจของร่างสูงบ่งบอกว่าคนที่จะเป็นแม่ของลูกตนได้นั้นมีแค่ทงเฮเพียงคนเดียว
“...ข้าเคยสัมผัสนางมาแล้ว ภายนอกอาจจะดูบอบบาง
แต่ตามจริงเรือนร่างของนางแข็งแรงพอที่จะทานรับร่างของโอรสสวรรค์”
“เจ้าจะเลือกนางจริงหรือคิบอม...”
ผู้เป็นป้าถามหลานชายเพื่อความแน่ใจ แต่เมื่อมิเห็นความลังเลในดวงตาของผู้เป็นหลาน
ผู้เป็นป้าจึงได้แต่อมยิ้มออกมาเบาๆ
“อะไรคือความเหมาะสมหรือท่านป้า...ในเมื่อหัวใจของข้าบอกว่า...ต้องเป็นนางเท่านั้น...”
ร่างแกร่งพูดซ้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้หญิงชรา ทำเอาหญิงวัยใหญ่ได้แต่พยักหน้ารับแสดงความเข้าใจ
“...ดี...ถ้าเจ้าว่าอย่างงั้น...เจ็ดราตรีต่อแต่นี้...แม้แต่ปลายเล็บ...เจ้าก็ห้ามแตะต้อง...ร่างกายของนาง...”
“ท่านป้า!”
“ข้าพูดจริง...ก่อนที่ร่างกายของนางจะสามารถตั้งครรภ์
นางต้องบริสุทธิ์ที่สุดตลอดเจ็ดวัน
ถ้าเจ้าทนไม่ไหวแล้วไปจับนางแม้แต่ปลายเส้นผมล่ะก็...อย่าหวังเลยว่าพระชายาคนนี้จะสามารถให้กำเนิดโอรสสวรรค์”
......................................................................................................
หลังจากร่างระหงอาบน้ำเสร็จ ทงเฮก็ถูกพาตัวกลับที่พักทันที
ตอนขามาร่างน้อยก็ยังได้นั่งม้ากับองค์ชายรัชทายาทแท้ๆ
เหตุใดขากลับ...ร่างบาถึงได้นั่งเกวียนหลวงแบบนี้ด้วย
ความงุดงงฉายแววบนใบหน้าหวาน
ทงเฮตั้งใจจะเอ่ยปากถามคิบอมตอนเสวยกระยาหารเย็น
แต่ร่างแกร่งกลับไม่ร่วมโต๊ะกับร่างบางเสียนี่
ความงุดงงเหล่านั้นจึงยังเก็บอยู่ในใจของทงเฮต่อไป
วันต่อมาร่างระหงก็ได้กลับไปยังกระท่อมกลางหมู่บ้านเช่นเดิม
ซึ่งครั้งนี้ทงเฮได้อยู่กับหญิงชราเจ้าของบ้านเพียงสองต่อสองเท่านั้น
รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้มันทำให้ทงเฮรู้สึกสบายใจดีอยู่หรอก
แต่ร่างบางก็ไม่คุ้นชินอยู่ดี
“อย่าเกรงไปเลย...ไม่มีอะไรทำให้เจ้าต้องกลัวสักนิด...”
“...เอ่อ...คือ...”
ร่างบางได้แต่อึกๆอักๆเพราะไม่รู้จะใช้คำพูดลักษณะใดกับนางดี
สาเหตุเพราะผู้หญิงคนนี้มีศักดิ์เป็นป้าของร่างแกร่งผู้เป็นองค์ชายรัชทายาทก็สมควรจะใช้คำราชาศัพท์
แต่อีกเหตุผลหนึ่ง...ทงเฮมิเห็นนางจะพูดคำราชาศัพท์ใดเลยกับคิบอม
แบบนี้แล้วทงเฮควรจะประพฤติปฏิบัติตนเยี่ยงไร
“เรียกข้าว่าท่านป้าเหมือนคิบอมก็ได้...” ดูเหมือนหญิงชราจะรู้ทัน
นางจึงอนุญาตให้ทงเฮใช้คำพูดง่ายๆแต่แสดงความเคารพต่อนาง
ซึ่งสิ่งนั้นก็ทำให้ทงเฮโล่งใจ
“ขอรับ...ท่านป้า...”
“เจ้าชื่อทงเฮสินะ...”
“ขอรับ...”
“อืม...ข้าชื่อจองมิน...” นางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
ก่อนจะลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปยังห้องทางขวามือ งายังไม่ทันสุกหญิงชราก็กลับออกมาพร้อมห่อสมุนไพรในมือ
ทงเฮมองอีกฝ่ายด้วยความงุดงง
ก่อนที่จองมินจะกลับไปนั่ง ณ ตำแหน่งเดิม
นางเปิดห่อสมุนไพรนั้นออกซึ่งภายในเต็มไปด้วยยาแห้งกรอบแต่กลิ่นหอมหวานชวนให้สูดดม
“...นี่เป็นห่อผ้าที่ใช้เก็บสมุนไพรเนื้อดี...อันเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมขอบุตรจากเทพบนสรวงสวรรค์”
“...........”
“...หมู่บ้านของเราบุรุษเพศสามารถให้กำเนิดลูกได้
หากบุรุษผู้นั้นดื่มน้ำที่เคี่ยวด้วยสมุนไพรห่อนี้สามวันสามคืน”
“...กำเนิดลูก?...ทงเฮมิจำเป็นต้องมีลูกหรอกนะขอรับ
เดี๋ยวองค์หญิงเสี่ยวเผ่ยจูกลับมา ทงเฮก็ต้อง...”
ผู้ที่ใช้สรรพนามแทนตนเองด้วยชื่อถึงกับหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียบจากปากของผู้มีอายุ
“จะกลับหรือไม่กลับเจ้าก็ต้องกิน...เพราะตอนนี้เจ้าได้ชื่อว่าเป็นเมียของเจ้าคิบอมโดยสมบูรณ์แล้ว”
“..........”
“ไม่ว่าองค์ชายรัชทายาทจะร่วมประเวณีกับเจ้า...โดยที่เจ้าเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม
ตอนนี้เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะเจ้านอนกับคิบอมแล้ว
เจ้ามีสิทธิ์ที่จะให้กำเนิดโอรสสวรรค์ไม่ต่างจากนางสนมหรือนางห้ามคนไหนทั้งนั้น
เจ้าไปลองคิดเองก็แล้วกัน...คิบอมสู้อุตส่าห์เดินทางมาที่นี่เพื่อหาวิธีให้เจ้ามีลูกให้เขา...แต่เจ้ากลับปฏิเสธไม่ยอมรับน้ำใจของคิบอม
ถ้าข้าเป็นมันข้าคงจะเสียใจ...”
หญิงชราเอ่ยก่อนลุกหนีไปทิ้งให้ทงเฮนั่งมองห่อสมุนไพรห้อนั้นด้วยคิดหนักกับเรื่องที่เกิด
การที่จองมินเอ่ยแบบนี้...ทงเฮมีทางเลือกด้วยหรือ?...
แต่...คิดอีกที...เหตุใดเล่าคิบอมถึงยอมลงทุนลำบากพาทงเฮมายังที่ห่างไกลความเจริญ
เพียงเพื่อหาวิธีให้ทงเฮมีลูกได้
องค์ชายอย่างเขามิจำเป็นต้องทำอะไรด้วยตนเองเลย...
ทำไมนะ?...ทำไม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น